วันพุธที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2556

เป็นเหาหละ

เป็นเหา.. ไม่แปลก แต่แปลกตรงที่ หมีเป็นสาวอายุ 26 แล้วนะ - -" แถมมั่นใจว่าตัวเองค่อนข้างรักษาความสะอาด สระผมวันเว้นวัน (เพราะคิดว่าสระทุกวันทำให้ผมแห้งเกินไป)
และอีกอย่างที่..พอหลายๆ คนรู้ว่าเป็นก็พากันแปลกใจ เพราะส่วนใหญ่การเป็นเหามักเกิดจากการไปคลุกคลีกับเด็กน้อยที่เป็นอยู่แล้ว แต่หมีนี่ไม่ วันๆอยู่บ้านคนเดียว ไม่ได้ไปสุงสิงกับใครเลย แล้วมันมาจากไหนฟะ!!??
ที่คิดว่าเป็นเหาจริงๆ ก็เพราะรู้สึกคันหัวมาสัก 2-3 วัน ก็เกาอยู่นั่นแหละโดยไม่ได้นึกถึงไอ้เจ้าเหานี่เลยสักนิด รังแครึ? ก็ไม่เป็น เป็นคนผมมัน ไม่เคยเป็นรังแคมาชาตินึงแล้ว แต่เมื่อวันก่อน เกาๆ หัวอยู่ ไอ้เหาบ้าเนี่ยติดนิ้วมาเลย ตอนแรกไม่แน่ใจ ตัวไรวะ? พอจะเอามาดูใกล้ๆ ดันร่วงหายไปกับพื้นดิน หาไม่เจอ -"- แต่คิดว่าใช่แล้วล่ะ ไม่งั้นไม่อยู่ๆ ก็คันหัวคะเยออย่างนี้หรอก
เลยไปค้นดูในบ้าน โชคยังดีที่มีหวีเสนียดที่คุณน้าเคยเอาไว้ขายกิ๊ฟช๊อปอยู่ แต่เสียนิดนึงตรงที่เป็นหวีเสนียดพลาสติก สมัยก่อนเป็นไม้ ใช้ดีมากๆ เพราะซี่มันจะถี่ๆกว่านี้ค่ะ ตัวเหาติดลงมาเลยทีเดียว
ก็เลยจัดการนำมาหวีๆ หัว พร้อมกับได้ไข่มันมาจริงๆ สีขาวๆ บีบแตกดังแป๊ะ!! หรือบางทีก็ได้ไข่ฝ่อมาด้วย เฮ้อออ...มาถึงขนาดนี้แล้วก็คิดมากเลยว่า มันมาจากไหน?
พอไปถามแม่ ว่าเมื่อช่วงที่เริ่มคันหัวก็คือหลังจากไปนอนบ้านแม่มา บ้านแม่มีแมวเป็นสิบๆตัว แต่แม่ก็บอก "แมวมันเป็นหมัดลูก ไม่ได้เป็นเหา" ง่ะ..

อ่ะ มาถึงขั้นนี้ละก็.. ในเมื่อหาต้นตอไม่ได้ ก็หาทางแก้ไขกัน

เมื่อก่อนเคยเป็นตอนเด็กๆ แต่หายได้อย่างไร จำได้ไม่ถนัด แต่คิดว่าไม่ได้ใส่ยา เพียงแค่ใช้น้ำมันมะกอกใส่ผมให้มันๆ พร้อมกับหวีเสนียด หวีเอาเหากับไข่ออกมากำจัด ทำแบบนั้นบ่อยๆ แล้วก็สระผมถี่ขึ้น ก็เลยหายกระมังคะ?

และในตอนนี้ จากการหาข้อมูลมาทั้งหมด ก็ได้วิธีที่จะเลือกทำดังนี้
1. น้ำมันก๊าด ราดหัว แล้วก็จุดไฟ...เย้ยยย!! ไม่ใช่!! เอายาหัวเฉยๆ ห้ามใกล้เปลวไฟค่ะ อันตราย แต่วิธีนี้ไม่ผ่าน เพราะแม่บอกว่ามันซึมเข้าหัว ก็เลยไม่ทำ
2. ใช้ยาหมักผมที่มีจำหน่ายทั่วไป ดังรูปนี้ค่ะ เอ่อ...นี่มัน..ฉลากเหมือนที่เคยเห็นตอนเด็กเลยค่ะ อยู่ยังไงก็อย่างนั้นจริงๆ คลาสสิคสุดๆ ถ้าให้ดั้งเดิมจริงๆ ต้องใส่ยาแล้วเอาถุงพลาสติกที่เป็นโฆษณายาฆ่าเหาคลุมหัวไว้ด้วย 555 ใครเคยเห็นบ้างคะ?
ยาเหา
 3. ย้อมผมหรือกัดสีผม อืม วิธีนี้เป็นวิธีที่เป็นไปได้แล้วก็เหมาะกับหมีสุดๆ เพราะปกติหมีเป็นคนชอบทำสีผมอยู่แล้ว ไอ้พวกเหาก็คงตายเรียบเพราะผิวหนังคนโดนยาพวกนี้ยังแสบเลย แต่ก็ยังลังเลอยู่เพราะหมีกำลังจะตัดผมทรงใหม่ ซึ่งต้องเป็นสีดำ ก็เลยยังไม่ทำ แต่ที่บ้านตอนนี้มีน้ำยากัดอยู่แล้ว

สรุป เลือกซื้อยาในข้อ 2. ที่กล่องเองก็โฆษณาไว้ว่าใช้ครั้งเดียวหาย แต่พอเปิดกล่องมา เง้อ...หลอดจิ๋วเท่าหลอดกาว TOA เล็กๆ ที่เอาไว้ใช้ตอนประถมต้น - -" บีบ 2 พรวดก็หมดหลอดแล้วง่ะ ถ้าใครจะใช้วิธีนี้แล้วผมยาวมากๆ คงต้องใช้หลายหลอดหน่อยนะคะ
วิธีใช้ก็คือ หมักหัวไว้ 12 ชั่วโมง โอ้ว... เลยหมักก่อนนอนแล้วเอาถุงพลาสติกคลุมหัวไว้ละกัน
ตื่นมาก็สระผมค่ะ ถามว่าผลเป็นอย่างไร ก็เหมือนจะไม่คันหัวแล้วนะคะ แต่..ด้วยความที่เราคิดว่าใส่ยาน้อยไปหน่อยมั้ง? จะหายจริงเหรอ? ขณะนี้เลยนั่งกัดสีผมอยู่ค่ะ -_-" 555555
แต่ว่าตอนนี้ แสบหัวก็จริง แต่คิดว่าน้ำยากัดหมดอายุไปแล้ว 555 ทำไปแล้วค่อยมาดูว่ามันผลิตตั้งแต่เมื่อไหร่ เอ่อ เก่าเก็บแฮะ เป็นปี 2 ปี แล้ว สีไม่ฟอกออกเลยค่ะ เดี๋ยวพิมพ์เสร็จแล้วก็จะไปล้างออกแล้ว แต่คิดว่าคราวนี้ก็น่าจะได้ผลนะ เพราะเรายังแสบหนังหัวเลย ไอ้เหา แกจงแสบตายไปเสียเถอะ

ทั้งหมดนี้ก็เป็นวิธีกำจัดเหาแบบหมีๆ ซึ่งไม่รู้ว่าตกลงเป็นเหาจริงๆหรืออุปทานไปเองกันแน่ หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์ให้แก่ผู้อ่านบ้างสักนิดก็ยังดีนะคะ -_-

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Enter your email address:

Delivered by FeedBurner